การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของดนตรีในประเทศไทย: จาก J-Rock/J-Pop สู่ K-Pop | Music

[Webmaster]

การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของดนตรีในประเทศไทย: จาก J-Rock/J-Pop สู่ K-Pop | Music Collection

การเปลี่ยนผ่านทางดนตรีในประเทศไทยจากกระแส J-Pop/J-Rock ไปสู่ K-Pop เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญอย่างยิ่ง สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสื่อ การตลาด และรสนิยมของคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น การแทนที่กระแสนี้ค่อย ๆ เกิดขึ้นในช่วงปลาย 2000s (พ.ศ. 2543 เป็นต้นไป)

ยุคทองของ J-Pop และ J-Rock ในไทย (1990s - ต้น 2000s)
ในช่วงยุค 90s ถึงต้น 2000s ดนตรีญี่ปุ่นมีอิทธิพลอย่างสูงต่อวัฒนธรรมวัยรุ่นไทย

• J-Rock ผู้บุกเบิก: วง X-Japan เป็นผู้จุดกระแส J-Rock ในไทย ด้วยเมโลดี้ที่ไพเราะและภาพลักษณ์ที่โดดเด่นทำให้เข้าถึงแฟนเพลงในวงกว้าง
• J-Pop เข้าสู่กระแสหลัก: ศิลปินอย่าง Utada Hikaru และ Ayumi Hamasaki ทำให้ J-Pop ได้รับความนิยมอย่างมั่นคง
• ช่องทางเข้าถึง: การเข้ามาของร้านขายซีดีเพลง และการที่สื่อโทรทัศน์ไทยนำละครญี่ปุ่นมาฉายพร้อมเพลงประกอบ (Soundtrack) เป็นช่องทางหลักในการเผยแพร่วัฒนธรรมดนตรีเหล่านี้

จุดเปลี่ยน: K-Pop เริ่มเข้ามาแทนที่ (กลาง 2000s)
ประมาณช่วงปี 2005 (พ.ศ. 2548) เป็นต้นมา กระแสดนตรีจากเกาหลีใต้เริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาดเพลงไทยอย่างจริงจัง และค่อย ๆ แย่งส่วนแบ่งตลาดไปจากดนตรีญี่ปุ่น


ปัจจัยที่ทำให้ K-Pop ได้เปรียบ

• กลยุทธ์การตลาดแบบองค์รวม (Hallyu):
  
  
  • การสนับสนุนจากรัฐบาล: รัฐบาลเกาหลีใต้ผลักดันอุตสาหกรรมบันเทิง (K-Pop) เป็นสินค้าส่งออกทางวัฒนธรรมอย่างชัดเจน
  • การเชื่อมโยงสื่อ: K-Pop ถูกผลักดันมาพร้อมกับ K-Drama ทำให้เกิดฐานแฟนคลับที่แข็งแกร่ง
• การผลิตและการนำเสนอที่ทันสมัย (Globalized Production):
  
  
  • ดนตรีและอุปกรณ์: K-Pop นำดนตรีตะวันตก (Pop, EDM, Hip-Hop) มาผสมผสานอย่างลงตัว เพื่อให้เข้าถึงตลาดโลกได้ง่าย ศิลปิน K-Pop ในยุคหลัง ๆ ต่างก็นำเครื่องดนตรีร็อกมาใช้ในงานเพลงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสียงกลองที่หนักแน่น หรือริฟฟ์ของ กีตาร์ไฟฟ้า ที่เสริมความดุดันให้กับเพลงแดนซ์ ทำให้เกิดมิติทางดนตรีที่น่าสนใจ
  • Performance: เน้นการเต้นที่ซับซ้อน มิวสิกวิดีโอที่ลงทุนสูง และภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบของศิลปิน 'ไอดอล'
• ช่องทางการเผยแพร่ที่เข้าถึงง่าย:

การเปิดรับอินเทอร์เน็ต: K-Pop ปรับตัวเข้ากับยุคอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว โดยมีการปล่อยเพลง (Full MV) บน YouTube และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่น ๆ เพื่อเข้าถึงแฟนเพลงทั่วโลกได้ง่าย

จุดอ่อนของ J-Pop ในยุคนั้น
ในขณะที่ K-Pop มุ่งสู่ตลาดโลก J-Pop ในยุคนั้นยังคงเน้นตลาดภายในประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก:

• ข้อจำกัดทางสื่อดิจิทัล: J-Pop มีข้อจำกัดในการเผยแพร่เพลงและมิวสิกวิดีโอออนไลน์ ทำให้แฟนเพลงต่างชาติเข้าถึงได้ยากกว่า K-Pop ที่เลือกใช้แพลตฟอร์มระดับโลกอย่างเต็มที่
• ความแตกต่างทางดนตรี: แม้ J-Rock จะมีแฟนคลับที่เหนียวแน่น และยังคงมีการใช้ กีตาร์ไฟฟ้า ที่มีเอกลักษณ์ แต่ดนตรี J-Pop โดยรวมยังเน้นความมีศิลปะเฉพาะตัวของญี่ปุ่น ทำให้เข้าถึงตลาดเอเชียและตลาดโลกได้ยากกว่าดนตรี K-Pop ที่ปรับปรุงให้เป็นสากล

บทสรุปการเปลี่ยนผ่าน

การเปลี่ยนผ่านจาก J-Pop/J-Rock สู่ K-Pop ในไทยเป็นตัวอย่างคลาสสิกของความสำเร็จด้าน "Soft Power" และ "Digital Strategy"

J-Pop/J-Rock เคยครองใจวัยรุ่นไทยด้วย ดนตรีคุณภาพ และ เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมญี่ปุ่น แต่ติดข้อจำกัดด้านการตลาดโลก ส่วน K-Pop เข้ามาด้วย กลยุทธ์การตลาดที่ดุดัน การผลิตที่ได้มาตรฐานโลก และ การใช้เทคโนโลยีแพลตฟอร์มดิจิทัล อย่างเต็มที่ ทำให้สามารถสร้างฐานแฟนคลับขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่งและผลักดันให้เกิดกระแส K-Pop ในประเทศไทยได้ยาวนานจนถึงปัจจุบัน