• Welcome to ลงโพสต์ PBN ฟรีวันนี้ ช่วยดัน SEO เว็บคุณให้แรงแบบติดหน้าแรก.
 

News:

ศบค. รายงานผู้ติด เชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในบางพื้นที่ แนะประชาชนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง และสวมหน้ากากในที่แออัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในช่วงฤดูฝนที่อาจมีการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจร่วมด้วย.

Main Menu

เด็กทารกติดเชื้อเริม

Started by somchai, May 16, 2025, 04:15 PM

Previous topic - Next topic

somchai



"น้องติดเชื้อเริม "ซึ่งเชื้อตัวนี้เด็กมักจะติดจากการถูกผู้ใหญ่ที่มีเชื้อไวรัสตัวนี้มาหอมแก้ม ทำให้เด็กติดเชื้อได้
น้องเค้าต้องเข้าแอดมิดในโรงพยาบาลได้รับทั้งยาฆ่าเชื้อและยาต้านไวรัส
ก็ฝากเตือนพ่อแม่พี่น้องคนเฒ่าคนแก่เป็นอุทาหรณ์ เวลาเห็นเด็กทารกแก้มจำหม่ำ
อย่าไปหอมแก้มเด็กเด็ดขาดเพราะ ผู้ใหญ่นั้นมีแต่เชื้อโรคทั้งนั้น
ในขณะที่เด็กทารกยังภูมิต้านทานไม่แข็งแรงพอสู้กับโรคพวกนี้
การไปหอมแก้มเด็ก อาจทำให้เด็กป่วยหนัก ถ้าหนักกว่านี้ก็ถึงขั้นเสียชีวิตได้

การติดเชื้อเริมในทารกแรกเกิดแม้จะไม่พบได้บ่อย แต่เป็นภาวะที่ร้ายแรงและต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน การรู้จักอาการเบื้องต้น การเฝ้าระวัง และการป้องกันที่เหมาะสมสามารถช่วยลดความรุนแรงและช่วยชีวิตทารกได้อย่างมาก พ่อแม่ ผู้ดูแล และบุคลากรทางการแพทย์ควรให้ความสำคัญต่อโรคนี้ และให้การดูแลอย่างรอบคอบในทุกขั้นตอน.

ความรู้เรื่องเด็กทารกติดเชื้อเริม (Neonatal Herpes)
เชื้อเริม หรือไวรัส Herpes Simplex Virus (HSV) เป็นไวรัสที่สามารถก่อให้เกิดโรคติดเชื้อที่ผิวหนัง เยื่อบุ และแม้แต่ระบบประสาทในมนุษย์ได้ โดยเฉพาะในเด็กทารกแรกเกิดที่ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง การติดเชื้อเริมอาจเป็นภาวะที่ร้ายแรงและอาจถึงขั้นเสียชีวิตหากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที

สาเหตุของการติดเชื้อเริมในทารก
การติดเชื้อเริมในทารกเกิดจากไวรัส HSV ซึ่งมีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่:

HSV-1: มักพบที่ปากหรือใบหน้า เป็นสาเหตุของแผลเย็น (cold sore)

HSV-2: มักเป็นสาเหตุของเริมที่อวัยวะเพศ

ในทารกแรกเกิด การติดเชื้อเริมมักเกิดจาก HSV-2 มากกว่า โดยทารกสามารถติดเชื้อได้ผ่านทาง:

การคลอดทางช่องคลอด: หากแม่มีเชื้อเริมอยู่ในช่องคลอดขณะคลอด ทารกสามารถสัมผัสกับไวรัสและติดเชื้อได้ทันที

ในครรภ์ (น้อยมาก): ผ่านรกหากแม่ติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์

หลังคลอด: จากการสัมผัสกับผู้ที่มีเชื้อ โดยเฉพาะการจูบทารกหากมีแผลที่ปาก

อาการของการติดเชื้อเริมในทารก
อาการของการติดเชื้อในทารกมักแสดงออกในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังคลอด และสามารถแบ่งได้เป็น 3 รูปแบบหลัก:

1. การติดเชื้อเฉพาะที่ผิวหนัง ตา หรือปาก (SEM: Skin, Eye, Mouth)
มีตุ่มน้ำใสหรือแผลพุพองบริเวณผิวหนัง รอบปาก หรือตา

บางครั้งอาจไม่มีไข้

หากรักษาทัน อาการมักไม่ลุกลาม

2. การติดเชื้อแบบลุกลามไปยังระบบประสาทส่วนกลาง (CNS Disease)
มีอาการชัก ซึม ไม่ดูดนม

ไข้สูงหรือต่ำกว่าปกติ

อาจมีอาการของเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

หากไม่ได้รับการรักษาทันที อาจเกิดความเสียหายถาวรต่อสมอง

3. การติดเชื้อแบบลุกลามทั่วร่างกาย (Disseminated Disease)
เกิดการติดเชื้อในหลายอวัยวะ เช่น ตับ ปอด หัวใจ

มีอาการคล้ายภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (Sepsis)

รุนแรงที่สุดและอาจทำให้เสียชีวิตได้รวดเร็ว

การวินิจฉัยโรค
แพทย์จะวินิจฉัยโรคโดย:

ตรวจอาการทางคลินิก

ส่งตรวจน้ำในตุ่มแผล ตรวจหาไวรัสด้วย PCR

เจาะเลือดหรือน้ำไขสันหลังเพื่อตรวจหาเชื้อ

ตรวจภาพสมองด้วย MRI หากสงสัยการติดเชื้อเข้าสมอง

การรักษา
หากสงสัยว่าทารกติดเชื้อเริม แพทย์จะเริ่มให้ยา อะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) ทางหลอดเลือดดำทันที ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาเริมในทารก

SEM: ให้ยานาน 14 วัน

CNS หรือ Disseminated: ให้ยานาน 21 วัน

หลังการรักษาแบบฉีด ผู้ป่วยอาจต้องกินยาต่อเนื่องอีกหลายเดือน เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

การพยากรณ์โรค
SEM: หากรักษาเร็ว ผลลัพธ์โดยรวมดี มักไม่มีภาวะแทรกซ้อน

CNS: แม้รอดชีวิต แต่บางคนอาจมีพัฒนาการช้า ชัก หรือสมองพิการ

Disseminated: อัตราการเสียชีวิตสูง หากรักษาช้า โอกาสรอดชีวิตต่ำมาก

การป้องกัน
การคัดกรองแม่ก่อนคลอด: หากแม่มีประวัติเคยเป็นเริม แพทย์อาจพิจารณาให้ยาต้านไวรัสช่วงใกล้คลอดเพื่อลดความเสี่ยง

การผ่าคลอด: หากแม่มีแผลเริมที่อวัยวะเพศในช่วงใกล้คลอด ควรผ่าคลอดเพื่อลดการสัมผัสของทารกกับเชื้อ

การหลีกเลี่ยงสัมผัสโดยตรงกับทารก: ผู้ที่มีแผลเริม โดยเฉพาะที่ปาก ไม่ควรจูบทารก หรืออยู่ใกล้ชิด

ล้างมือบ่อย ๆ: โดยเฉพาะก่อนสัมผัสทารก

ข้อควรรู้สำหรับพ่อแม่
ทารกที่มีไข้ ซึม ไม่ดูดนม หรือมีแผลพุพองที่ผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ทันที

หากทารกได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเริม ควรรับยาครบและติดตามพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง

ปรึกษากุมารแพทย์หากไม่แน่ใจว่าแผลที่ทารกมีนั้นเป็นแผลจากเริมหรือไม่